วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

สวัสดีครับ หลายๆคนเคยมีข้อสงสัยว่าหน้าฝนแบบนี้เราจะสามารถทาสีบ้านได้หรือไม่ ถ้าทาไปแล้วจะเกิดผลเสียอะไรกับผนังของบ้านหรือเปล่า วันนี้ทาง Modern De รับสร้างบ้านอุดรธานี จะมาคลายข้อสงสัยให้กับเพื่อน ๆกันครับ

เป็นพื้นฐานที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการสร้างบ้าน ต่อเติม หรือซ่อมแซมบ้านไม่ควรที่จะทำในช่วงหน้าฝน เพราะในสภาพอากาศที่แปรปรวนแน่นอนอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพการทำงาน ความสะดวก ความรวดเร็วของงานต้องไม่เต็มที่อย่างแน่นอน รวมไปถึงไปการทาสีบ้านเช่นเดียวกัน ยิ่งจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการทาสีในหน้าฝนเลย แต่ถ้าหากจำเป็นต้องทาสีในช่วงหน้าฝนจริงๆ เราก็มีวิธีมาแนะนำกันครับ

ตรวจสอบสภาพผนังก่อนลงมือ ทาสี

เริ่มแรกเลยเราตรวจสอบสภาพผนังอาคารก่อนว่าเปียก หรือมีความชื้นสะสมอยู่ภายในเนื้อวัสดุหรือไม่ เพราะถึงแม้วันนี้อาจมีสภาพอากาศที่ดี แดดเปรี้ยง แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนฝนตกไป ผนังอาจยังมีความชื้นสะสมอยู่ภายในเนื้อวัสดุอยู่ หากทาสีทับไปเลยทันที ปัญหาที่ตามในภายหลังคือ สีโป่งพอง ลอกล่อนได้จากความชื้นที่อยู่ในเนื้อวัสดุระเหยตัวออกและเกิดเชื้อราขึ้นในเนื้อสีได้

คำนวณระยะเวลาสีแห้งกับสภาพอากาศ

เมื่อทำการตรวจสอบผนังเรียบร้อยดีแล้ว ก็มาดูพยากรณ์อากาศกันก่อน หากจะมีฝนตกในช่วงค่ำมืด ก็ควรรีบมาทาสีบ้านในช่วงเช้าเลย แต่หากตกในช่วงเที่ยงหรือบ่ายก็ควรหลีกเลี่ยง เก็บไว้ไปทาวันอื่นจะดีกว่า เพราะสีแต่ละชนิดมีระยะเวลาการแห้งที่แตกต่างกัน แต่เพื่อความแน่นอนควรทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงจะดีที่สุด
- สีน้ำพลาสติก ต้องมีระยะเวลาแห้งไม่ต่ำกว่า 6 ชม.หลังจากทาเสร็จ ดังนั้นต้องดูวันที่แดดดี มั่นใจว่าวันนั้นฝนไม่ตก
- สีเคลือบเงาหรือสีน้ำมัน ด้วยข้อด้อยคือ เป็นสีที่แห้งช้า ดังนั้นต้องทาในวันที่อากาศดี ความชื้นต่ำเท่านั้น แม้ฝนไม่ตกแต่อากาศครึ้มก็ไม่ควรทา เพราะงานออกมาไม่สวยและสีอาจลอกล่อนได้ในภายหลัง
- สีทาเหล็ก นิยมนำมาใช้ทาป้องกันสนิม ลบรอยต่างๆ มีทั้งแบบเงาและแบบด้าน ควรทิ้งระยะเวลาแห้งใช้งานได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- สีย้อมไม้ เพื่อป้องกันเนื้อไม้ให้ดูสวยทนนานต่อทุกสภาพอากาศ แต่ไม่ควรทาในช่วงที่ฝนตกติดต่อกันทุกวัน เพราะต้องใช้ระยะเวลาการแห้งใช้งานได้จริงข้ามวันกันเลยทีเดียว

เลือกสี เลือกโปรดักส์อย่างมีคุณภาพ

การเลือกสีทาบ้านก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน หากเลือกสีทาบ้านที่ราคาถูก เกรดต่ำ อาจเกิดปัญหาในภายหลังก็ได้ ทางที่ดีควรเลือกคุณภาพอย่างดีไปเลย ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายคุณสมบัติให้เลือกทั้ง กันเชื้อรา กันความชื้น ติดแน่นทนนาน อีกอย่างสีทาบ้านที่อยู่ในเกรดระดับดีก็จะมีคุณสมบัติแห้งเร็วติดตัวมาอยู่แล้วด้วย ทำให้ลดระยะเวลาการแห้งเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

สรุปแล้วทาสีบ้านสามารถทำได้ในช่วงหน้าฝน แต่ต้องดูสภาพอากาศให้ดีเป็นวันต่อวันกันเลยทีเดียว หากใครที่สามารถอดทนรอให้พ้นหน้าฝนได้ ก็แนะนำให้ทาสีบ้านในช่วงหลังฤดูฝนจะดีที่สุดครับ


วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562

การระบายอากาศภายในบ้าน - นอกจากการระบายอากาศที่ดีจะส่งผลให้บรรยากาศภายในบ้านน่าอยู่มากขึ้นแล้ว ยังสามารถลดการเกิดปัญหาบ้านอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นอับและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคภายในบ้านอีกด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถทำได้โดยการเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อให้ลมและแสงสว่างพัดผ่านเข้ามายังพื้นที่ภายในบ้านเพื่อไล่ความอับชื้น โดยไม่ตั้งวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่บังทิศทางลมผ่าน หรืออาจเพิ่มประสิทธิภาพให้การระบายอากาศภายในบ้านมากยิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้งพัดลมระบายอากาศตามห้องต่าง ๆ ก็จะช่วยลดการเกิดความอับชื้นภายในบ้านได้มากกว่าเดิม

เปิดรับแสงสว่างอย่างเหมาะสม - สำหรับการลดความชื้นภายในตัวบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะไม่อย่างนั้นถ้าหากตัวบ้านมีความชื้นก็จะทำให้เกิดกลิ่นอับภายในบ้าน หรือ มีเชื้อราเกิดขึ้นตามผนังบ้านได้ บ้านส่วนใหญ่จะมาพร้อมการออกแบบบ้านที่มีช่องแสงสว่างอย่างเหมาะสมทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน แต่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องปิดประตูหน้าต่างเมื่อออกไปทำงานนอกบ้าน หรือต้องปิดบ้านจนมิดชิดเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศระหว่างวันภายในบ้าน ก็อาจนำมาสู่ปัญหาที่ทำให้พื้นที่ในบ้านเกิดความอับชื้นและกลิ่นอับ เพราะเปิดรับแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงควรเปิดหน้าต่างและผ้าม่านออก เพื่อให้แสงสว่างสามารถส่องผ่านเข้ามายังพื้นที่ภายในบ้านได้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาความอับชื้นสะสมที่อาจทำให้บ้านกลายเป็นแหล่งเกิดเชื้อโรคและแบคทีเรีย

แต่งบ้านด้วยการทาสีกันความชื้น - เทคโนโลยีที่พัฒนาไปก้าวไกลในปัจจุบัน ช่วยให้นวัตกรรมของสีทาบ้านเป็นไปได้มากกว่าเรื่องการตกแต่งบ้านเพื่อความสวยงาม เพราะนอกจากจะมาพร้อมคุณสมบัติที่สามารถปกป้องตัวบ้านจากรังสีความร้อนภายนอก เพื่อปรับอุณหภูมิให้พื้นที่ภายในบ้านเย็นสบาย หรือสามารถเช็ดทำความสะอาดราบสกปรกบนผนังให้หลุดออกได้อย่างง่ายดาย ยังสามารถปกป้องตัวบ้านจากความชื้นซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อราภายในบ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ การหันมาทาสีบ้านด้วยวัสดุสีที่มีคุณสมบัติในการลดความชื้นได้ดี จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาความอับชื้นภายในบ้านได้มากขึ้น

รับสร้างบ้าน อุดร สร้างบ้านด้วยทีมงานมืออาชีพ
รับสร้างบ้าน อุดร สร้างบ้านด้วยทีมงานมืออาชีพ
ที่มา : www.modern-de.com

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เทคโนโลยี Precast เป็นเทคโนโลยีในการสร้างบ้านยุคใหม่ ที่สามารถช่วยให้สร้างบ้านได้อย่างรวดเร็ว ทันใจลูกค้า โดยเปลี่ยนจากผนังบ้านที่สร้างขึ้นมาจากการก่ออิฐฉาบปูน มาเป็นผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ในปัจจุบันมีโครงการหมู่บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมมากมายที่ก่อสร้างด้วย Precast ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงานรวมไปถึงสามารถควบคุมงานก่อสร้างได้มีคุณภาพมากขึ้นผู้ที่ต้องการจะสร้างบ้านจึงควรรู้จักระบบ Precast เพื่อใช้เป็นข้อมูลในตัดสินใจเลือกสร้างบ้านที่มีคุณภาพ และตรงตามความต้องการที่สุด

การก่อสร้างในอดีตจะนิยมใช้ไม้เป็นวัสดุในการก่อสร้าง จนพัฒนามาเป็นการใช้คอนกรีตซึ่งใช้อย่างแพร่หลายมากในปัจจุบันเพราะมีความแข็งแรง รวมไปถึงมีการพัฒนามาใช้คอนกรีตอัดแรงในงานอาคารสูงเพื่อลดค่าใช้จ่าย และในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาระบบการก่อสร้างแบบ Precast หรือผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย

เหตุผลที่ก่อสร้างด้วยผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะต้นทุนการก่อสร้างอาคารลดลงเมื่อเทียบกับระบบการก่อสร้างแบบปกติ ด้วยระยะเวลาในการก่อสร้างที่เร็วขึ้น ส่งผลให้ค่าแรงช่างถูกลง และคุณภาพงานก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานเนื่องจากผลิตมาจากโรงงาน สามารถเปิดโครงการได้รวดเร็วทันความต้องการของตลาด และยังนำระบบวิธีการไปใช้กับโครงการอื่น ๆ ต่อได้อีกด้วย

ระบบ Precast ยังมีข้อได้เปรียบระบบเสา-คาน อีกหลายด้าน เช่น ความสามารถในการป้องกันเสียงรบกวน ความแข็งแรงของผนัง ความทนทานต่อความร้อนและช่วยลดความร้อน แม้ว่าการก่อสร้างด้วยระบบ Precast จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีผู้บริโภคบางส่วน ไม่มั่นใจในระบบนี้ ทั้งในเรื่องการรั่วซึม และปัญหารอยร้าว โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะมาจากการก่อสร้างด้วยระบบ Precast ของประเทศไทยในช่วงแรกๆที่ยังขาดความชำนาญและความรู้ในการก่อสร้าง เพราะแม้ระบบนี้จะใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศมานานแล้วก็ตาม แต่ในประเทศไทยนั้นถือเป็นระบบใหม่ จึงอยู่ในช่วงเรียนรู้ เช่น นำวิธีการ Joint จากต่างประเทศมาใช้ แต่เนื่องจากประเทศไทยมีฝนตกชุกมากกว่าทำให้วิธีการป้องกันน้ำแบบเดิมจึงใช้ไม่ได้ผล หรือบ้านที่เกิดรอยร้าวขึ้น เพราะผู้ออกแบบและผู้รับเหมาในช่วงแรกๆ ยังไม่มีความชำนาญที่เพียงพอ ซึ่งในปัจจุบันวิธีการก่อสร้างด้วยระบบ Precast ได้มีการพัฒนาปรับปรุงจนสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว

ที่มา : http://www.modern-de.com/ , นอนไม่หลับ

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

1. ซื้อของเล่นให้เล่น

สำหรับแมวจะชอบของเล่นประเภทเชือกหรือลูกบอลที่สุด โดยลูกบอลถ้าหากผู้เลี้ยงโยนให้แล้ว แมวมักจะชอบไล่ตามตะปบอย่างสนุกสนาน หรือจะซื้อเป็นที่ฝนเล็บ คอนโดแมวให้มันก็ไม่เลว อันนี้จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจแมว ไม่ให้ไปฝนเล็บตามเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นอย่างดี ส่วนสุนัขเองก็อาจซื้อขนมขบเคี้ยว หรือของเล่นยางให้แทะก็ได้

2. เก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้มิดชิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัดลมตั้งพื้นที่มักถูกเสียบปลั๊กค้างไว้ตลอดเวลา ถ้าตอนไหนที่คุณไม่ได้ใช้และไม่ได้อยู่ในพื้นที่ด้วย ก็ควรม้วนสายและเก็บเข้าตู้หรือห้องเก็บของให้มิดชิด เพื่อไม่ให้สุนัขและแมวไปแทะสายไฟเล่นได้

3. มีตู้โชว์สำหรับใส่ของตกแต่ง

ในกรณีที่คุณมีของโชว์ชิ้นเล็กๆ เช่นโมเดล ตุ๊กตากระเบื้อง ฯลฯ คุณควรหาตู้โชว์มาตั้งเก็บไว้ในเป็นระเบียบ เพื่อที่สุนัขและแมวจะได้ไม่ไปนำมาเล่น หรือทำตกระเนระนาด

4. ใช้เวลากับสุนัขและแมวให้มาก

บางครั้งการที่สุนัขและแมวกัดหรือทำลายข้าวของในบ้านนั้นเกิดจากความเครียด วิธีการแก้คือคุณควรใช้เวลาอยู่กับมันมากๆ กอดมัน ลูบตัวมัน เกาคาง เกาหัวให้มันบ่อยๆ มันจะได้ไม่รู้สึกเหงานั่นเอง

5. หาแผ่นโฟมมาพันรอบฟูกเตียงและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้

ข้อนี้สำหรับผู้ที่เลี้ยงแมวโดยเฉพาะ เนื่องจากแมวจะมีนิสัยชอบฝนเล็บเล่นอยู่เสมอ และมักไม่เลือกที่ฝนเสียด้วย ไม่ว่าจะเสาเตียง ขาโต๊ะ ฟูกเตียง มันทำได้หมด คุณจึงควรหาแผ่นโฟมมาหุ้มไว้ เพื่อไม่ให้เล็บมันตะกุยไปถึงเนื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ แต่ก็ต้องหมั่นสังเกตสภาพตัวแผ่นและเปลี่ยนอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

http://www.modern-de.com/


วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การสร้างบ้านย่อมมีรูปแบบการสร้างบ้านที่แตกต่างกันและหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบบ้านขึ้นอยู่กับรูปแบบบ้านของแต่ละคน ขนาดบ้าน และองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งการสร้างบ้านในแต่ละปีย่อมมีเทรนด์การสร้างบ้านที่แตกต่างกันไป เนื่องจากการเวลาเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสิ่งต่างๆก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตาม ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้รวบรวมเทรนด์การสร้างบ้านของ บริษัทรับสร้างบ้าน โมเดิร์นดี ที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมในปี 2018 มาให้ท่านผู้อ่านได้ทราบและเข้าใจกันค่ะ สำหรับเทรนด์ในการสร้างบ้านปี 2018 หรือ 2561 นี้ มี 7 เทรนด์ด้วยกัน

Smart Home Smart Office เป็นเทรนด์แรกที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเราอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเราจะทำอะไรล้วนแล้วแต่ต้องใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิตประจำวันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เด็กยุคใหม่ต่างชื่นชอบความสะดวกสบายไม่ชอบเดินทางไกล ดังนั้นการสร้างบ้านที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงานจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เด็กยุคใหม่ต่างสนใจและถือเป็นหนึ่งในแบบบ้านที่เด็กยุคใหม่ต่างหันมามอง สำหรับจุดเด่นของโฮมออฟฟิศยุคใหม่นั้นจะมีส่วนโปร่งโล่ง ทั้งแบบบ้านชั้นเดียว และแบบบ้านสองชั้น มีที่นั่งสบายๆ ไว้จิบกาแฟยามบ่าย ห้องสันทนาการกับเพื่อนที่ทำงาน ห้องสังสรรค์เมื่อตกเย็น สระว่ายน้ำสวยๆ ส่วนเจ้าของบ้านหรือเจ้าของโฮมออฟฟิศนี้ก็อาจจะสร้างห้องนอนไว้อยู่ข้างบนสุด ซึ่งการสร้างบ้านแบบโฮมออฟฟิศนี้จะต้องมีการแบ่งสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน

Solitude เป็นบ้านขนาดย่อม ในราคาคุ้มค่า มีฟังก์ชันการทำงานครบถ้วน รองรับความต้องการของคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบกิจกรรมต่าง ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ มอบความความเป็นส่วนตัว และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี โดยบ้านรูปแบบนี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนโสด เนื่องจากจากสถิติรายงานว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าเพศหญิงจะมีจำนวนมากกว่าเพศชาย 1.5 ล้านคน ทั้งนี้จำนวนผู้หญิงโสดจะมากขึ้น 5.6 ล้านคน และการแต่งงานจะช้าลง 45 % รวมถึงสถิติการหย่าร้างที่มีแนวโน้มสูงขึ้น (อัตราการหย่าร้างในปี 2556 คือ 35% และ ปี 2557 =37% ) ประกอบกับข้อมูลปัจจุบันที่ประเทศไทยมีประชากรโสดกว่า 40% หรือประมาณ 17 ล้านคน “ผู้หญิงตัวคนเดียว” และประชากรโสด จะมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นคนโสดส่วนมากจึงต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวสูง

Safe & Secure เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การสร้างบ้านของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งเทรนด์การสร้างบ้านรูปแบบนี้จะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งจะเน้นตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง การเลือกสรรวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไปจนถึงการอยู่อาศัยที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานจริง ไปจนถึงการสร้างบ้านให้รองรับบริการสุขภาพในอนาคต เช่น มีระบบเซนเซอร์ป้องกันการล้ม การออกแบบพื้นป้องกันการลื่นและรองรับการทำงานร่วมกับบริการทางการแพทย์ เป็นต้น โดยบ้านรูปแบบนี้จะเหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ เนื่องจากมีระบบความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ แบบบ้านรูปแบบนี้ทำมาเพื่อแก้ไขปัญหาการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ (ในปี 2558 ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไปมีจำนวนกว่าร้อยละ 10 หรือมากกว่า 7 ล้านคน และมีการคาดการณ์ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นถึง 17 ล้านคน ภายในปี 2583 ซึ่งมากกว่า 1 ใน 4 ของประชากรไทย)

http://www.modern-de.com/


วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

บ้านเดี่ยว ยังคงเป็นแบบบ้านในฝันของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็กหรือ ครอบครัวใหญ่ เพราะพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเป็นสัดส่วน และยังเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขในครอบครัวที่สมาชิกได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้า พร้อมอาณาบริเวณที่กว้างขวาง

สำหรับคนที่กำลังมองหาแบบบ้านสวย ๆ เพื่อปลูกในที่ดินของตัวเอง วันนี้เรามีแบบบ้านเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น มาให้ชมกันครับ

บ้านเดี่ยวสไตล์ modern ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเป็นพิเศษถึง 376 ตารางเมตร ชั้นล่างออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เปิดโล่งถึงกันเพื่อพื้นที่ชั้นล่างนี้โปร่งโล่ง พร้อมห้องนอนพิเศษที่มีห้องน้ำในตัวยื่นออกจากตัวบ้าน ชั้นบนประกอบด้วยห้องนอนอันกว้างขวางพร้อมระเบียงและห้องน้ำในตัวสำหรับทุกห้อง

รายละเอียด

พื้นที่ใช้สอย : 376 ตร.ม. ลักษณะของบ้าน : บ้าน 2 ชั้น สไตล์ Modern 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน ราคาบ้าน : 6,128,000 - 8,020,000 บาท แบบบ้านจาก : บริษัท ซีคอน โฮม จำกัด


วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

การยื่นขออนุญาตก่อสร้างบ้าน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้านทุกคนที่กำลังจะปลูกสร้างบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านที่เราจะก่อสร้างนี้มีความแข็งแรง ปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัย และมีการรักษาสิ่งแวดล้อมตามที่กฎหมายกำหนด การยื่นขออนุญาตนี้สามารถเป็นไปอย่างราบรื่นหากเรามีการเตรียมพร้อมอย่างดี โดยเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน ทั้งแบบก่อสร้าง รายการคำนวณต่างๆ เอกสารประกอบวิชาชีพของสถาปนิกและวิศวกร เอกสารแสดงข้อมูลส่วนตัว เอกสารที่ดินที่จะปลูกสร้าง ใบคำขออนุญาต ทั้งนี้ก่อนยื่นขออนุญาต ควรศึกษากฎหมายควบคุมอาคารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ซึ่งเจ้าของบ้านควรรู้และปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กำหนด เช่น การเว้นที่ว่าง ระยะถอยร่นโดยรอบอาคาร ระยะห่างระหว่างอาคาร เรื่องรั้วบ้าน เป็นต้น (หากว่าจ้างสถาปนิกให้ออกแบบบ้านให้ สถาปนิกจะช่วยดูเรื่องกฎหมายควบคุมอาคารก่อนการออกแบบ)

การยื่นขออนุญาตก่อสร้างบ้าน กรณีบ้านพักอาศัยไม่เกินสองชั้นและมีพื้นที่ทุกชั้นในหลังเดียวรวมกันไม่เกิน 150 ตารางเมตร จะได้รับการยกเว้นในการแนบแบบก่อสร้างในการขออนุญาตก่อสร้าง โดยแนบเฉพาะผังบริเวณแสดงที่ตั้งอาคารโดยสังเขป และสำเนาเอกสารแสดงสิทธิในที่ดิน พร้อมใบคำขออนุญาตก่อสร้าง โดยไม่จำเป็นต้องมีสถาปนิกควบคุมงาน ทั้งนี้ เจ้าของบ้านจะว่าจ้างสถาปนิกออกแบบ และจัดทำแบบก่อสร้างหรือไม่ก็ได้ แต่หากบ้านพักอาศัยนั้นไม่เข้ากรณีข้างต้น ก็จะเข้าหลักเกณฑ์ตามที่ข้อกฎหมายกำหนดไว้ให้มีสถาปนิกหรือวิศวกรออกแบบและควบคุมงาน ซึ่งเจ้าของบ้านจำเป็นต้องแนบแบบก่อสร้าง พร้อมยื่นใบคำขออนุญาตก่อสร้างกับหน่วยงานราชการตามปกติ

การขออนุญาตก่อสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้านที่กำลังจะปลูกสร้างบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านที่เราจะก่อสร้างนี้จะมีความแข็งแรงและปลอดภัยเมื่อเข้าอยู่อาศัย โดยขณะที่กำลังดำเนินการขออนุญาตนี้ เราก็สามารถหาผู้รับเหมาได้ในเวลาเดียว เพราะเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ผู้รับเหมาจะพร้อมลงมือก่อสร้างได้ทันที

ดูขั้นตอนและวิธีการขออนุญาตสร้างบ้านเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.modern-de.com/


BTemplates.com

Categories

Popular Posts